วันพฤหัสบดีที่ 30 มิถุนายน พ.ศ. 2559

❥ HowTo แต่งหน้ารับปริญญาด้วยตัวเอง [ไม่เป๊ะ ไม่ปัง แต่ไม่พังนะคะ]


สวัสดีค่า ^_^
กลับมาพบกันอีกแล้วนะคะ แต่ไม่ใช้กระทู้รีวิวแต่อย่างใด
วันนี้ผึ้งจะมาทำฮาวทู แต่งหน้ารับปริญญาในลุคเบาๆ และราคาเบาๆนะ
ผึ้งพยายามจะเลือกเครื่องสำอางค์ที่ราคาไม่สูง แต่คุณภาพดีมาใช้ในฮาวทูนี้นะคะ
(ขอบอกก่อนเลยนะคะ กระทู้ฮาวทูนี้ไม่มีสปอนเซอร์แต่อย่างใด 
เป็นผลิตภัณฑ์ที่ใช้แล้วคิดว่าดี ราคาเหมาะสมกับคุณภาพที่ได้รับ จึงมาแบ่งปันกันนะคะ


มีความตกใจในหน้าสดของตัวเอง แต่ตกใจน้อยกว่าตอนหน้าติดสเตียรอยด์นิดนึง 55
(ใครอยากรู้วิธีการรักษาหน้าจากการแพ้ครีม แพ้สารสเตียรอยด์ แพ้เครื่องสำองค์
ไม่ว่าจะเป็นสิว เป็นผื่น เป็นผด เข้าไปดูกระทู้เก่าของผึ้งได้นะคะ 
วันนี้ผึ้งจะเน้นแต่งในลุคโทนสีน้ำตาลนะคะ สีแก้มและสีปากจะไม่จัดจ้านจนเกินไป
เน้นความสุภาพ เรียบร้อยนะคะ

เพื่อไม่เสียเวลาอันมีค่าของทุกคน เรามาเริ่มกันเลยนะคะ

สาวๆที่สายตาสั้น แน่นอนค่ะ วันรับปริญญาก็ต้องใส่คอนแทคเลนส์  
(วันรับปริญญาวันจริงควรใส่สีใสนะคะ สุภาพที่สุด ถ้าใส่แบบสีหรือบิ๊กอายไปคงได้ทิ้งคอนแทคเลนส์ก่อนเข้ารับปริญญาแน่นอนค่ะ)
     ผึ้งเลือก Mini Nobluk ฺBrown 
ขนาดเลนส์ 14.00 เป็นคอนแทคเลนส์ที่ใช้แล้วเปลี่ยนใจไม่ได้เลยค่ะ 
ด้วยทั้งสี และขนาดที่พอดี ใส่แล้วไม่แบ๊ว ไม่หลอก ให้ลุคธรรมชาติ 
     ใช้ได้ 1 เดือน นับจากวันที่เปิดใช้ครั้งแรกค่ะ มีค่าสายตาให้เลือกด้วยนะคะ

ราคา        250  บาท
ซื้อได้ที่    Facebook หรือ IG ของแบรนด์ได้โดยตรงค่ะ

หลังจากที่ใส่คอนแทคเลนส์เสร็จแล้ว ฏ้เป็นขั้นตอนการลงสกินแคร์และครีมกันแดดนะคะ
(ครีมกันแดดนี่สำคัญมากนะคะ ในวันรับปริญญา เพราะต้องตากทั้งแดด ทั้งลม)สกินแคร์ผึ้งเลือกใช้ตัว AMIRA PURE ARGAN MILK ค่ะ 
ที่เลือกตัวนี้มาใช้เพราะมีหลายเหตุผลมาก 
เพราะว่าในช่วงรับปริญญา จะต้องแต่งหน้าติดๆกันหลายวันใช้ไหมคะ
ซึ่งนอกจากตัวนี้จะช่วยบำรุงให้ผิวชุ่มชื้นแล้ว ยังไม่ทำให้เกิดการระคายเคือง
หรือทำให้สิวเพิ่มขึ้นด้วยค่ะ จึงเหมาะมากๆสำหรับสาวๆที่แพ้ง่าย ใช้อะไรก็สิวขึ้น
 
ราคา        ขนาด 30ml ราคา 1,190 บาท (จะมีช่วงโปรโมชั่นนะคะ)
ซื้อได้ที่    Facebook หรือ IG ของแบรนด์ได้โดยตรงค่ะ


เริ่มขั้นตอนแรกของการแต่งหน้ากันเลยนะคะ 

ที่ขาดไม่ได้ในการแต่งหน้าที่ต้องการการติดทนนานของเครื่องสำอางค์ คือ ไพร์เมอร์ค่ะ
ผึ้งเลือกใช้ Laura Mercier Foundation Primer
ตัวนี้จะช่วยปรับผิวให้เรียบเนียน ปกปิดขุมขน ให้เมคอัพติดทนนาน 

ราคา        700-1,500  บาท (แล้วแต่ขนาดและโปรโมชั่นค่ะ)
ซื้อได้ที่    เค้าเตอร์ Laura Mercier และห้างสรรพสินค้าชั้นนำค่ะ


ต่ออมาเป็นขั้นตอนการลงรองพื้นนะคะ รองพื้นที่ผึ้งเลือกใช้คือ Revlon ColorStay 
หรือที่รู้จักกันในชื่อเรฟลอนฝาดำนั่นเอง ตัวนี้คือถูกและดีมากกกกกก 
สาวๆคนไหนที่เคยใช้จะรู้ว่าตัวนี้ดียังไง
เรื่องความติดทนเจ้าตัวนี้เค้าเคลมไว้ว่าติดทนนานถึง 24 ชั่วโมง
ซึ่งความจริงแล้วถ้าใครทิ้งไว้ถึง 24 ชั่วโมงหน้าก็อาจจะพังได้น้า 555
คุมมันได้ค่อนข้างดี ถ้าสาวผิวแห้งมากๆอาจจะต้องผสมออยลงไปเล็กน้อย 
เพราะระหว่างวันหน้าอาจจะแห้ง แตก และเป็นขุยได้นะคะ 

ราคา        550 - (มีโปรโมชั่นบ่อยค่ะ รอซื้อตอนชั้นที่ 2 ลด 50% จะคุ้มมาก)
ซื้อได้ที่    เค้าเตอร์ Revlon , Watson , Boots , eveandboy และห้างสรรพสินค้าชั้นนำค่ะ


ผึ้งเลือกใช้ Amira argan oil มาผสมค่ะ 
(ต้องบอกก่อนเลยว่ามองข้ามแบรนด์นี้ตลอด 555
เห็นคนอื่นใช้แล้วบอกว่าดี เป็นธรรมชาติ ไม่แพ้ แต่เราไม่เชื่อค่ะ
เพราะเป็นภูมิแพ้และผิวค่อนข้างแพ้ง่ายมาก ใช้สกินแคร์เหมือนคนทั่วๆไปไม่ค่อยได้
ต้องหาหมอผิวหนังตลอด และมีช่วงนึงที่ผึ้งผิวหน้าติดสารสเตียร์รอยด์
ช่วงนั้นได้ทำการรักษาจนดีขึ้น แล้วรู้สึกว่าอยากหาผลิตภัณฑ์ที่เป็นธรรมชาติ 
ก็เลยลองเลือกตัวนี้มาใช้ ผลปรากฎว่าเลิกใช้ไม่ได้เลยค่ะ 
สิวสเตียร์รอยด์ สิวผิด สิงหัวช้างงงงงงงงง หายหมด 
จะขึ้นแค่ช่วงวันนั้นของเดือน เพราะฮอร์โมนมีการเปลี่ยนแปลง 
และผึ้งก็ใช้ตัวออยตัวนี้แต้มลงบนสิวแทนยารักษาสิว 
เพราะว่ายารักษาสิวส่วนใหญ่มีสารสเตียรอยด์ผสมอยู่ ซึ่งผึ้งก็ไม่อยากกลับไปใช้อีก)
พิมมายาวเชียว 555 ใช้ตัวออยนี้ผสมกับรองพื้นในปริมาณ 1/4 ของรองพื้นนะคะ 
นอกจากจะช่วงให้ผิวไม่แห้งแตกระหว่างวันยังช่วยบำรุงไปในตัวด้วยค่ะ 

ราคา        30ml  ราคา 1,290 บาท
ซื้อได้ที่    Facebook หรือ IG ของแบรนด์ได้โดยตรงค่ะ

ทาลงให้ทั่วใบหน้านะคะ ผึ้งใช้แปรงเพราะทำให้เกลี่ยเร็วขึ้น 
ค่อยๆเกลี่ยให้ทั่วใบหน้าตามแนวขนนะคะ ไม่งั้นรองพื้นอาจจะแห้งและเป็นรอยแปรงได้
(ตัวออยจะช่วยให้การเกลี่ยรองพื้นง่ายขึ้น และที่สำคัญให้ลุคฉ่ำๆไม่แมทจนเกินไปค่ะ)

และใช้รองพื้นตัวเดิมที่สีเข้มขึ้นมาอีก 2 เฉด ทาลงตามในรูปเลยค่ะ
เฉดดิ้งเพื่อให้ความบานของใบหน้าลดน้อยลง 555 
ขั้นตอนนี้ผึ้งใช้ฟองน้ำค่อยๆกดเพื่อให้ดูกลืนกับรองพื้นที่ลงไปแล้วนะคะ

ขึ้นตอนต่อมาใช้ คอนซีลเลอร์ ลงบริเวณรอยดำ รอยสิว และใต้ตานะคะ
ใช้ Catrice Camouflage Cream ลงปิดบริเวณรอยดำจากสิวค่ะ 
ตัวนี้เนื้อจะค่อนข้างหนึบๆแต่ไม่ถึงกับเหนียวนะคะ ปกปิดได้ค่อนข้างดีเลยทีเดียว

ราคา       100-160 บาท (แล้วแต่โปรโมชั่นของแต่ละร้าน) 
ซื้อได้ที่    Boots Watson eveandboy


และใช้  Collection Lasting Perfection Ultimate Wear Concealer ลงบริเวณใต้ตา
คอนซีลเลอร์ของ Collection ตัวนี้มีบล็อกเกอร์หลายๆคนนำมารีวิว 
และเป็น Favorite ของหลายๆคนด้วยนะคะ เพราะคุณภาพที่คุ้มราคามากกก  

ราคา       199-299 บาท (แล้วแต่โปรโมชั่นของแต่ละร้าน) 
ซื้อได้ที่    Boots Watson eveandboy

ค่อยๆใช้ฟองหน้ากดตรงบริเวณที่ต้องการปกปิดนะคะ 

หลังจากลงรองพื้นและคอนซีลเลอร์แล้ว ผึ้งจะยังไม่ลงแป้งนะคะ
เพราะการแต่งหน้า แต่งตาเยอะๆอาจจะทำให้อายแชโดว์ร่วงลงมาเลอะได้
ถ้ายังไม่ได้ลงแป้งจะแก้ไขได้ง่ายกว่าค่ะ

ขั้นตอนต่อมาคือการเขียนคิ้วค่ะ ผึ้งเลือกใช้ดินสอเขียนคิ้ว Cosluxe Slim Brow Pencil
โดยส่วนตัวแล้วคือชอบมาก เหมือนเป็นสิ่งที่ตามหามานาน 555
ตัวนี้มีให้เลือกหลายเฉดสีนะคะ น้ำตลเข้ม น้ำตาลอ่อน ดำ มีหมด 
เป็นแท่งหมุนแบบออโต้นะคะ ไม่ต้องเหลา 
และที่สำคัญคือ หัวเล็กมาก ประมาณ 1 มิลลิเมตรได้ค่ะ เขียนง่าย ได้เส้นที่คมชัด

ราคา        189-219 บาท
ซื้อได้ที่    eveandboy หรือ Sephora

ค่อยๆลากโครงคิ้วก่อนนะคะ แล้วค่อยๆเขียนตามในรูปเลนค่ะ 

หลังจากนั้นใช้แปรงปัดบริเวณหัวคิ้ว เพิ่อให้ตัวคิ้วไม่ตัดและดูเป็นธรรมชาตินะคะ
หลังจากนั้นใช้แปรงอันเดิมค่ะ ลากลงมาตรงสันจมูก เพื่อให้ดูมีมิติมากขึ้น

มาในส่วนของตากันบ้างนะคะ ผึ้งเลือกแต่งโทนสีน้ำตาลอ่อนๆ
และอายแชโดว์ที่เลือกใช้คือ  Essence Quattro Eyeshadow

ราคา       ประมาณ 180 บาท
ซื้อได้ที่   eveandboy

และ Catrice Never Let Me Go Quattro

ราคา       ประมาณ 150-200 บาท (ผึ้งซื้อผ่านเว็บ itruemart ประมาณ 109 บาท)
ซื้อได้ที่   eveandboy และ เว็บ itruemart


ทั้งสองชิ้นราคาไม่สูง และคุณภาพที่ได้ก็พอเหมาะกับราคาค่ะ


ขั้นตอนแรก ใช้สี่ที่ (1) ของ Catrice นะคะ ทาให้ทั่วบริเวณเปลือกตา
ขั้นตอนที่สอง ใช้สิที่ (2) ของ Essence ทาบริเวณกลางตาไปจนถึงหางตานะคะ
ขั้นตอนที่สาม ใช้สีที่ (3) ของ Essence ทาบริเวณหางตาทั้งด้านบนและด้านล่างนะคะและขั้นตอนสุดท้ายของอายแชโดว์  ใช้สีที่ (4) ของ Essence ทาบริเวณหัวตาค่ะ

เมื่อทาอายแชโดว์เสร็จก็เป็นขั้นตอนการกรีดอายไลน์เนอร์นะคะ
อันนี้แนะนำให้เลือกอายไลน์เนอะร์ที่กันน้ำ เพราะว่าวันรับปริญญาจะเหงื่อออกค่อนข้างมาก
ถ้าเลือกที่ไม่กันน้ำมาใช้ แพนด้าแน่นอนค่ะ

ผึ้งเลือกใช้ Cosluxe Code Black Super Matte ตัวนี้ก็เป็นอีกตัวที่ถูกและดีค่ะ 
ปลายค่อนข้างเล็ก เขียนง่าย และเส้นคมมากค่ะ

ราคา       180 บาท 
ซื้อได้ที่   เว็บเครื่องสำอางค์ที่มีผลิตภัณฑ์ของ Cosluxe หรือทางเพจของ Cosluxe

จะเขียนจากหัวตาไปหางตา หรือเขียนจากหางตามาหัวตาก็ได้ค่ะ แล้วแต่ถนัด 
ที่สำคัญอย่าให้หนาและหางยาวมากจนเกินไป

และใช้ Mei Linda Quick Eyeliner Super Waterproof 
ตัวนี้ก็ถูกและดีเช่นกันค่ะ ใช้ง่าย กันน้ำ เป็นแท่งพลาสติกแต่สามารถเหลาได้

ราคา       100-150 บาท
ซื้อได้ที่   ร้านขายเครื่องสำอางค์ทั่วไป และทางเว็บไซต์ของ Meilinda

เขียนอินไลน์เนอร์บริเวณชิดขนตาและขอบตาด้านบนนะคะ

ขั้นตอนต่อมาเป็นส่วนของขนตานะคะ
ดัดขนตาให้เรียบร้อย ปัดมาสคาร่า และติดขนตาปลอมนะคะ
ผึ้งเลือกใช้ Maybelline New York Volum’ Express Hypercurl Mascara 
ตัวนี้จะช่วยเพิ่มความหนาของขนตา นอกจากนั้นยังกันน้ำอีกด้วย

ราคา       99-149 บาท
ซื้อได้ที่   eveandboy Boots Watson และห้างสรรพสินค้าชั้นนำทั่วไป


และขนตาปลอมที่เลือกใช้ก็คือ บอกต่อ นั่นเอง
ขนตาปลอมของบอกต่อนั้นมีให้เลือกหลายแบบเลยค่ะ จะหนา บาง ยาว สั้น มีหมด

ราคา       200-300 บาท
ซื้อได้ที่   ตัวแทนจำหน่าย

ดันขนตาและปัดมาสคาร่าทั้งขนตาบนและล่างนะคะ หลังจากนั้นก็ติดขนตาปลอม

หลังจากที่แต่งบริเวณดวงตาเสร็จแล้วนะคะ ก็ลงแป้งได้เลยค่ะ
ผึ้งเลือกใช้แป้งผสมรองพื้น  Laura Mercier Foundation Powder  
หรือใครจะเลือกใช้เป็น  Translucent ก็ได้นะคะ 
ที่เลือกใช้ของ Laura Mercier เพราะว่าเนื้อแป้งค่อนข้างละเอียด
และที่สำคัญใช้แล้วหน้าเนียนเป็นธรรมชาติมากค่ะ

ราคา       1,790 บาท (หรือต่ำกว่า แล้วแต่โปรโมชั่นของแต่ละร้าน)
ซื้อได้ที่   เคาท์เตอร์ Laura Mercier หรือเว็บไซต์เครื่องสำอางค์ 
(ถ้าสั่งในเว็บต้องระวังหน่อยนะคะ ของปลอมค่อนข้างเยอะค่ะ)

ใช้พัฟค่อยๆกดลงให้ทั่วใบหน้านะคะ และใช้แปรงปัดส่วนเกินออก 

ต่อมาเป็นในส่วนของแก้มนะคะ จะลงบางๆพอ 
เลือกใช้ของ Essence Silky Touch Blush เบอร์ 20 babydoll
เป็นสีที่ค่อนข้างสุภาพ และราคาค่อนข้างถูกค่ะ

ราคา       145  บาท
ซื้อได้ที่   eveandboy Boots Watson และห้างสรรพสินค้าชั้นนำทั่วไป


มาถึงขั้นตอนการไฮไลท์ และเฉดดิ้งนะคะ
ไฮไลท์เลือกใช้ของ NYC Sun 2 Sun Bronzing Powder
ที่เลือกใช้เพราะตัวนี้สีค่อนข้างออกเหลืองๆ ใช้แล้วดูไม่หลอกและไม่ชัดเกินไป

ราคา       -  บาท (อันนี้ไม่ทราบราคานะคะ เพราะว่าเพื่อนซื้อมาฝาก)
ซื้อได้ที่   -  (น่าจะมีจายตามเว็บไซต์เครื่องสำอางค์นำเข้านะคะ)

และเฉดดิ้งของ Essence Sun Club Matt Bronzing Powder
ตัวนี้สีค่อนข้างเข้ากับผิว ไม่ส้ม หรือเข้มจนเกินไป 
ที่สำคํญราคาถูกและตลับใหญ่มากกกกกก

ราคา       ประมาณ 175  บาท
ซื้อได้ที่   eveandboy Boots Watson และห้างสรรพสินค้าชั้นนำทั่วไป

ไฮไลท์บริเวณสันจมูก และโหนกแก้มนะคะ 
และเฉดดิ้งบริเวณร่องแก้ม ใต้คาง รวมไปถึงตามไรผมค่ะ

มาถึงขั้นตอนสุดท้ายนะคะ ก็คือปากนั่นเอง
ผึ้งเลือกใช้  Essence Longlasting Lipstick นะคะ
เม็ดสีค่อนข้างชัด ออกเป็นเนื้อครีม ทาง่ายไม่ทำให้ปากแห้งนะคะ
มีข้อเสียคือ ติดไม่ค่อยทนค่ะ ผึ้งจึงเลือกใช้อีกตัวทาทับนะคะ

ราคา       135  บาท
ซื้อได้ที่   eveandboy Boots  และห้างสรรพสินค้าชั้นนำทั่วไป

นั่นก็คือ Collection Cream Puff Lip Cream ชอบตัวนี้เพราะมีกลิ่นห้อมนิดๆ
ทาง่าย ให้ลุคที่เกือบๆจะแมท 
พอใช้สองสี จะให้สีที่ดูสุภาพ ไม่จัดจ้านจนเกินไป

ราคา       ประมาณ 200 กว่าบาท (มีโปรโมชั่น 1 แถม 1 ค่อนข้างบ่อย)
ซื้อได้ที่   eveandboy  และห้างสรรพสินค้าชั้นนำทั่วไป


พอแต่งหน้าเสร็จเรียบร้อยก็จัดแต่งทรงผมให้สวยงาม 
(นี่งามแล้วหรอ 555555 )

หาพร็อบมาใส่ ที่คาดผม มงกุฎดอกไม้ เพิ่มความฟรุ่งฟริ้งเข้าไปอีก

เป็นยังไงบ้างคะ แต่งหน้ารับปริญญาด้วยตัวเอง
ไม่ต้องเสียตัง 2-3 พัน/วัน แถมยังได้แต่งลุคตามใจตัวเอง

ฮาวทูนี้เป็นการแบ่งบันวิธีการแต่งหน้า ไม่ใช่การสอนแต่งหน้าแต่อย่างใด
และเป็นแนวทางการเลือกซื้อเครื่องสำอางค์ที่ราคาค่อนข้างเหมาะสมกับคุณภาพ
ผึ้งจึงอยากมาแบ่งปันกับเพื่อนๆ เผื่อว่าใครอาจจะไม่อยากจ้างช่างแต่งหน้า หรืออยากแต่งหน้าเอง
ซึ่งอาจจะไม่ได้เป๊ะปัง อลังการมากนักนะคะ
หากมีอะไรผิดพลาดผึ้งต้องขออภัยด้วยนะคะ 

ขอบคุณที่ติดตามอ่านกันจนจบนะคะ ไว้พบกันในฮาวทู และรีวิวหน้านะคะ 
ขอบคุณค่าาาา   

วันจันทร์ที่ 25 เมษายน พ.ศ. 2559

❥ Review : แพ่ง่ายก็ใช้ได้ PAN Cosmetic

สวัสดีค่ะ
วันนี้ผึ้งจะมาแนะนำสกินแคร์สำหรับคนแพ้ง่ายนะคะ กับผลิตภัณฑ์ของ PAN Cosmetic
หลายคนคงได้ยินชื่อนี้กันมาบ้างแล้วนะคะ เพราะในเครือของแพนนั้นจะมีผลิตภัณฑ์หลากหลาย
ทั้ง สกินแคร์ เวชสำอางค์ เครื่องสำอาคางค์ รวมไปถึงคลีนิกความงาม

ปกติผึ้งจะเป็นคนแพ้ง่ายมาก พวกสกินแคร์ก็เปลี่ยนมาหลายตัว
แต่เปลี่ยนได้ไม่นานก็ต้องกลับมาใช้ตัวเดิม
ผึ้งใช้ผลิตภัณฑ์ของแพนมาประมาณ 8 ปี ไม่เคยแพ้ หรือระคายเคืองเลย
วันนี้ก็เลยจะมาแนะนำให้เพื่อนๆ เผื่อจะสนใจในคุณภาพของผลิตภัณฑ์ที่ผึ้งใช้นะคะ

ตัวแรกเลยก็เป็น Day Cream นะคะ



ตัวนี้จะเป็นครีมบำรุงผิวหน้าช่วงกลางวัน 
เนื้อครีมเนียนนุ่มไม่เหนียวเหนอะหนะ ซึมซาบสู่ผิวรวดเร็ว 
ด้วยสารสกัดจากธรรมชาติ Wild Pansy Extract และ Aloe Vera Extract 
ตัวนี้จะช่วยให้ผิวเนียนนุ่ม ชุ่มชื่น  ไม่ทิ้งความมันไว้บนใบหน้า 
รวมไปถึงสูตร NANO TT-M ที่เป็นนวัตกรรมใหม่ของ Pan Cosmetic 
ช่วยเพิ่มคุณค่าสมุนไพรธรรมชาติ ด้วยการผสมผสานอนุภาคนาโนของ Tea Tree Oil 
และ Emblica Extract 

ตัวนี้จะไม่ทำร้ายผิวหน้านะคะ มีความอ่อนโยนต่อผิวค่อนข้างมาก
วิธีใช้  ทาครีมทั่วใบหน้า และลำคอ หลังทำความสะอาดผิวหน้า วันละ 1 ครั้ง ตอนเช้า
(เนื้อครีมจะไม่ทำให้หน้ามันนะคะ)

อีกตัวที่ผึ้งจะใช้คู่กันเลยนะคะ คือเป็น Night Cream 



จะเป็นสูตรเดียวกับเดย์ครีมด้านบนเลยค่ะ 
แต่จะมีความเข้มข้นกว่า 
วิธีใช้  ทาครีมทั่วใบหน้า และลำคอ หลังทำความสะอาดผิวหน้า วันละ 1 ครั้ง ตอนเย็น

ทั้งสองตัวนี้นี่แหละค่ะ เป็นตัวที่ผึ้งเลือกใช้มา 8 ปีแล้ว 
ซึ่งคุณภาพของเค้าก็เหมาะสมกับราคาอยู่นะคะ

Day Cream :  จะมี 2 ขนาด ราคาก็จะแตกต่างกันนะคะ จะมี 25 กรัมและ 50 กรัม
ราคาจะอยู่ที่ 175 บาทและ 295 บาท 
Night Cream  :  จะมีขนาดเดียว คือ 50 กรัม ราคาอยู่ที่ 455 บาท 
(ราคาจะขึ้นอยู่กับโปรโมชั่นของแต่ละร้านค้า)
หาซื้อได้ที่ไหน ? : เคาน์เตอร์แพนทุกสาขา ห้างสรรพสินค้าชั้นนำทั่วไป  
Watson  7 Eleven(บางสาขา) และร้านขายยา(บางร้าน)


^_____________________________________________________________^

วันนี้แวะมาแนะนำเท่านี้นะค่า 
ไว้มีอะไรดีๆผึ้งจะมาแนะนำเพื่อนๆกันอีกนะคะ 




วันพฤหัสบดีที่ 7 เมษายน พ.ศ. 2559

❥ Review : ตัวช่วยหน้าพังจากการติดสเตียรอยด์

สวัสดีค่ะ วันนี้ผึ้งมีผลิตภัณฑ์ดีๆมาแนะนำเพื่อนๆหลังจากห่างหายไปนานนะคะ
เนื่องจากผิวหน้ามีปัญหาจากการใช้ครีมที่มีส่วนประกอบ ของสเตียรอยด์ค่ะ
แต่ตอนนี้ผิวหน้าเริ่มดีขึ้นในระดับนึงแล้วค่ะ จึงมาแนะนำสาวๆที่มีปัญหาแบบเดียวกัน
ว่าอะไรที่ควรใช้ และอะไรที่ควรงดนะคะ
แต่ก่อนจะไปดูวิธีการรักษาผิวหน้าของผึ้งอย่างจริงจัง เรามารู้จักกับสารสเตียรอยด์กันก่อนนะคะ

สเตียรอยด์ 
เป็นฮอร์โมนชนิดหนึ่งที่ร่างกายสร้างมาจากต่อมหมวกไตชั้นนอก (Adrenal cortex steroids) สำหรับสเตียรอยด์ที่ใช้ในทางการแพทย์นั้น เป็นสารที่สังเคราะห์ขึ้น เพื่อใช้ประโยชน์ในการรักษาโรค รวมถึงใช้ทดแทนในกรณีที่ร่างกายไม่สามารถสร้างฮอร์โมนดังกล่าวได้
สเตียรอยด์นั้น หากนำมาใช้อย่างถูกตามหลักวิชาการ จะก่อให้เกิดประโยชน์อย่างมาก
แต่ถ้านำมาใช้ผิดวิธีก็จะให้โทษอย่างมากเหมือนกันค่ะ